วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558

7th October 2015

ณ วันพุธ ที่ 7 เดือน ตุลาคม พุทธศักราช 2558


วันนี้มีภารกิจกับรุ่นพี่ที่โรงเรียนคือการไปลงทะเบียนแจ้งที่อยู่ที่สำนักงานเขต
ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี โดยเรารอแค่เอกสารเท่านั้น


เอาล่ะ งานที่เป็นทางการเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว
งานต่อไปคือการไปชมดอกคอสมอสค่ะ
ซึ่งงานนี้ถือว่าทุกอย่างค่อนข้างเป็นใจ
ทั้งช่วงเวลาที่เหมาะสมกับอากาศที่เหมาะกับการเดิน

6th October 2015

ณ วันอังคาร ที่ 6 เดือนตุลาคม พุทธศักราช 2558


และแล้วก็ตื่นสาย นัดกับเดอะแก็งไว้เจ็ดโมงเช้า
แต่ตัวเองดันตื่นเจ็ดโมงครึ่งซะนี่
เอาเถอะ อย่างน้อยก็ไปร่วมปฐมนิเทศทัน


การปฐมนิเทศก่อนเรียน ก็เหมือนกับการปฐมนิเทศทั่วไป
ที่จะชี้แจงเรื่องการเรียนและกฎเกณฑ์ต่างๆ ของโรงเรียน
รวมถึงเรื่องการสอบวัดระดับแบ่งชั้นเรียน
ซึ่งเราไม่ได้กังวลอะไรเลย เพราะไม่มีพื้นฐานมาอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ


เสร็จสิ้นพิธีการที่โรงเรียนก็ประมาณบ่ายสาม
เรากับกลุ่มเพื่อนก็พร้อมใจกันไปเดินที่ชินจูกุต่อ
ก็ไม่รู้ว่าเป็นช่วงปกติของการท่องเที่ยวหรือไป
คนเยอะก็จริง แต่ไม่พลุ่งพล่านนะ
รู้สึกว่าปริมาณมันดูพอดีน่ะ


เสร็จจากซื้อของและเดินส่องผู้คนกับตึก
เราก็กลับมากินข้าวเย็นที่หอกัน เป็นอันจบภารกิจวันนี้

5th October 2015

ณ วันจันทร์ ที่ 5 เดือน ตุลาคม พุทธศักราช 2558


วันนี้ตื่นเช้าก็จริง แต่ก็ออกจากหอช่วงบ่อยอยู่ดี ฮ่าๆๆ
บ่ายวันนี้ เราออกมาจากหอตั้งแต่บ่ายสาม
เพื่อเดินสำรวจสวนต่อ และมันก็เหนื่อยบวกหนาวกว่าที่ิคิด
กลับหอตอนหกโมงเย็น มือกับเท้าช้ามาก
ส่วนรูปภาพก็ได้ใหม่ๆ มาไม่กี่รูป


อ้อ วันนี้ได้รู้จักรุ่นน้องเพิ่มคนหนึ่ง
ชื่อน้องมิว น้องมิวเพิ่งเรียนจบ เศรษฐศาสตร์
เพิ่งทราบเหมือนกันว่าเป็นน้องมหา'ลัยด้วย
แม้ว่าจะคนละวิทยาเขตก็เถอะ


เอาล่ะ เพิ่งนี้ปฐมนิเทศกันแล้ว วันนี้ขอนอนเร็วหน่อยแล้วกัน

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2558

4th October 2015

ณ วันอาทิตย์ ที่ 4 เดือน ตุลาคม 2558


ฮึๆๆ วันนี้ก็ไม่ทันมื้อเช้าอีกแล้ว รู้สึกตัวตอนหกโมงครึ่ง แต่ลุกไม่ไหว ว่าจะขอตอนต่อสักเดี๋ยว
แล้วมันก็เลยไปเกือบเที่ยง สุดท้ายก็ลุกจากที่นอนตอนบบ่ายสาม ฮ่าๆๆ


ก็นะ เมื่อวานไปสำรวจฝั่งขวาของสวนมาแล้ว วันนี้เราไปสำรวจฝั่งซ้ายกัน
สวนฝั่งซ้ายก็คล้ายๆ กับฝั่งขวานะ แต่เหมือนบ้านเรือนจะเยอะกว่า
จริงๆ ความตั้งใจในการเดินสำรวจของเราคือแม่น้ำค่ะ แต่ดูแล้วๆ ท่าจะอยู่อีกไกล


ปล. ข้าวเย็นวันนี้เป็นสปาเก็ตตี้กับเนื้อทอดค่ะ

3rd October 2015

ณ วันเสาร์ ที่ 3 เดือน ตุลาคม พุทธศักราช 2558


เมื่อคืนนอนไม่ดึกนะ ประมาณเที่ยงคืนจะตี 1 ได้ แต่สุดท้ายก็ตื่นบ่ายสองอยู่ดี ฮ่าๆๆ
เอาล่ะ วันนี้ไม่ทันมื้อเช้าก็ไม่เป็นไร เพราะเราจะออกไปสำรวจเส้นทางซากุระกัน
ไม่อยากจะอวดเลย แต่ตรงสถานีที่อยู่ใกล้หอมันมีสวนด้วย
แล้วพอถึงเดือนเมษาดอกซากุระก็จะบานสะพรั่งเลยล่ะ


แต่จากที่เดินสำรวจไปตามสวนวันนี้ เราก็สังเกตได้หลายอย่างเลยว่า
คนญี่ปุ่นจะมีความเป็นระเบียบอยู่มากก็จริง หากในชีวิตจริงที่มีแต่ความเร่งรีบแล้ว
พวกเขาก็ไม่ได้ปฎิบัติตามกฎไปซะหมด อย่างเช่น
การเดินหรือการปั่นจักรยานตามช่องทางที่รัฐบาลจัดสรรไว้ให้
บางทีก็มีเดินในช่องจักรยานบ้าง ปั่นสลับช่องบ้าง อะไรประมาณนี้แหละ


อ้อ เกือบลืม ข้าวเย็นวันนี้เป็นข้าวแกงกะหรี่ค่ะ
เพิ่งเคยกินครั้งแรก ก็อร่อยดี แม้จะคิดถึงส้มตำบ้านเรามากก็เถอะ

2nd October 2015

ณ วันศุกร์ที่ 2 เดือน ตุลาคม พุทธศักราช 2558

ก็ไม่รู้ว่าเป็นนิสัยที่ติดมาจากไทยหรือยังไง เพราะกว่าจะทิ้งตัวลงนอนได้ก็ตี 4 พอดี
เพราะงั้นมันเลยช่วยไม่ได้ที่เราจะตื่นมาบ่ายสอง ฮ่าๆๆ

เราน่าจะยังไม่บอกว่าที่หอมีกับข้าวให้ทานสองมื้อ คือมื้อเช้ากับมื้อเย็น
แน่นอนว่ามื้อเช้าไม่ทันล่ะ แต่มื้อเย็นก็ถือว่าอร่อยอยู่
เป็นมื้อกับข้าวที่เน้นไปทางโภชนาการน่ะ

วันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก ทานข้าวเย็นเสร็จก็ออกมาเดินสำรวจห้างร้านบริเวณหอพักสักหน่อย
ความสะดวกอีกอย่างที่หอเรามีคืออยู่ใกล้สถานีรถไฟกับร้านค้านี่แหละ
พวกร้านสะดวกซื้อเรายังไม่ได้เข้าไปสำรวจนะ
ที่เดินๆ เข้าไปดูบ้างก็จะเป็นห้างกับร้านร้อยเยน
เข้าไปก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากซื้อของที่จำเป็นต้องซื้อน่ะ
อย่าง เชือกที่เอามาทำราวตากผ้ากับน้ำยาล้างจานอะไรแบบนี้

สามทุ่ม... คือเวลาที่เดินออกมจากหอ ถือว่าดึกนะ
เราเดินออกมาคนเดียวก็กลัวเหมือนกัน
ร้านค้าหลายร้านก็ปิดไปแล้วด้วย
และอีกอย่างคือยิ่งดึกยิ่งหนาวค่ะ

1st October 2015

ณ วันพฤหัสบดี ที่ 1 เดือน ตุลาคม พุทธศักราช 2558

ฮู่... ไม่รู้จะเริ่มพูดถึงญี่ปุ่นตรงไหนก่อนดี แต่ที่แน่ๆ คืออากาศที่เย็นแบบแปลกๆ ไม่เหมือนเมืองไทย ฮ่าๆๆ
ก็นะ การเดินทางจากไทยมาถึงญี่ปุ่นครั้งนี้ ใช้เวลาเดินทางประมาณห้าชั่วโมง
ซึ่งเราก็คิดว่าจะนอนพักอยู่นะ แต่ดูหนังไปหนังมา กลับตาค้าง ฟาดไปสองเรื่อง ถึงญี่ปุ่นเลย ฮ่าๆๆ
เราดู Ice Age 4 Continental Drift กับ Spy น่ะ
ก่อนจะจบด้วยบทเสียงเปียโนคลาสสิค เป็นอันต้อนรับสู่ญี่ปุ่น

พอถึงญี่ปุ่นขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองก็คล้ายๆ กับที่ไทยเลย แต่ก็ไม่ได้เข้มงวดนัก
อาจเป็นเพราะเข้มงวดมาจากที่ไทยก็ได้ และหลังจากเสร็จขั้นตอนดังกว่า
เราก็มาคิดถึงเรื่องการเดินทางสู่ที่พักกัน และนับเป็นความโชคดีอย่างแรกในญี่ปุ่น
ที่น้องพลอยรุ่นน้องที่มาด้วยกันมีอดีตพี่เลี้ยงตอนฝึกงานที่นี่ เราเลยได้รับการดูแลอย่างดู
คุณเฟา (ไม่แน่ใจว่าสะกดถูกหรือเปล่านะ) และครอบครัว
ออกจากบ้านตั้งแต่ตีสามครึ่งเพื่อมารอรับเราที่สนามบินนาริตะ

แบบว่า... รู้สึกเกรงใจมาก และพวกเขาก็น่ารักมาก เพราะเขายังเลี้ยงข้าวกลางวันที่เคเอฟซีอีก
อ้อ เกือบลืมบอกไป คุณเฟากับครอบครัวเป็นชาวเราซิลเลียนค่ะ และภาษาที่พวกเขาใช้คือภาษาโปรตุเกส
ฮึๆๆ คิดภาพไม่ออกล่ะสิ ว่าเราคุยกันยังไง เราคุยกันห้าภาษาค่ะ อังกฤษ ญี่ปุ่น โปรตุเกส ไทย และสุดท้ายภาษามือ ฮ่าๆๆ
ฟังดูเหมือนจะวุ่นวาย แต่เราก็สื่อสารกันเข้าใจนะ

เอาล่ะ พอแยกจากคุณเฟาที่โรงเรียน พี่ฟางที่เป็นเจ้าหน้าที่คนไทยคนเดียวในโรงเรียน
ก็อนุเคราะห์พาเรามาส่งที่หอต่อ เราเดินทางกันด้วยรถไฟประมาณยี่สิบนาทีก็ถึงค่ะ
ในความรู้สึกของเราคือไม่ไกลมาก ถือว่าเป็นชานเมืองที่ดูสงบกว่าที่คิด
และสภาพหอพักก็ค่อนข้างสะดวกสบายสมกับราคาที่จ่ายไป